ได้โปรดช่วยน้องชายที่รักของฉันต่อสู้กับโรคมะเร็งในสมองด้วย

สวัสดี ฉันชื่อ วิน โพตาซิโอ้ หรือ วิน เป็นพี่ชายแท้ๆของ "นีโน่" และฉันกำลังช่วยหาทุนให้กับน้องชายของฉันชื่อว่านีโน่ ผู้ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง ผลการตรวจด้วยภาพ ซึ่งสอดคล้องกับเชื้อโรคในสมองมากที่สุด แม้ว่าจะไม้ใช่เชื้อมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดแต่ก็เป็นเชื้อมะเร็งที่ลุกลามรุนแรงที่สุดเช่นกัน เราพบเนื้องอก 2 ชิ้นที่กำลังพัฒนาในสมองของเขาและกำลังค่อยๆ แพร่กระจาย ชิ้นที่หนึ่งมีขนาดความกว้าง 3.0 ซม. ซึ่งทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัว เพราะมันไปกดทับเส้นประสามตาหรือประสาทตาไขว้ และชิ้นที่สองมีขนาดความกว้าง 1.6 ซม. แพทย์ยังพบว่าเขามีภาวะน้ำคั่งในสมองอุดตัน ( hydrocephalus ) และมีอาการสมองบวม สิ่งสำคัญส่งผลให้น้องชายฉัน มีพฤติกรรมไม่ปกติ เขาสามารถก้าวร้าวกับคนที่อยู่ใกล้เขาและขัดขืนกับพวกเขา เขาวิ่งไปมาบนโถงทางเดินก่อนจะขับถ่ายไม่เป็นที่ไม่เป็นทางได้ เวลาสนทนาเขายังพูดถึงสิ่งที่ไม่ได้ตรงกับหัวข้อที่เราสนทนาอยู่ด้วย หรือหมายถึง เขาไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เราสนทนากับเขาอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด จนกระทั่งพวกเราได้รับคำอธิบายจากแพทย์ของเขา และแพทย์ได้แจ้งว่า เนื้องอกของเขาอยู่ในกลีบหน้าผาก มันส่งผลต่อการควบคุมบุคลิกภาพและพฤติกรรมของเขาด้วย เข้าประเด็นเลย คือ ฉันไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เท่าที่ฉันรู้ น้องชายของฉันต้องป่วยด้วยโรคมะเร็งที่กำลังฆ่าเนื้องอก นั้นเป็นเหตุผลที่ร่างกายของเขากำลังทรุดโทรมลงอย่างช้าๆ และสิ่งที่เราทำได้คือดูเขานอนบนเตียงในโรงพยาบาลเท่านั้น และครอบครัวเราก็กำลังช่วยเหลือเขาอย่างสุดความสามารถเท่าที่ทำได้ แต่เหมือนว่าพวกเราสามารถทำได้แค่ซื้อเวลาให้เขาเท่านั้น แพทย์ได้ดูแลและสังเกตพฤติกรรมของมะเร็งน้องชายของฉันอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะทำการรักษาอย่างถูกวิธี ตามที่พวกเราได้แจ้งมา ทราบมาว่า กรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ และไม่มีปรากฏในหนังสือทางการแพทย์ที่กล่าวถึงเรื่องนี้มากนัก สิ่งหนึ่งที่แน่นอนเลยว่า การผ่าตัดไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้ เพิ่มอัตราการเสียชีวิตและโอกาสในการฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น หากพวกเขาพยายามเอาเนื้องอกออกที่อยู่บริเวณจะเยื้องหรือเว้นเข้าไปในพื้นที่ของโพรงสมองช่องที่ 3 ( 3rd. ventricle ) และต่อมไพเนียล (Pineal gland ) ของเขา ซึ่งมันสุ่มเสี่ยงมากที่จะเอาออกได้ เนื่องจากเคสนี้เป็นเคสพิเศษของ พวกเขาจึงส่งตัวอย่างการทดสอบไปยังแล็บที่เมืองมะนิลา (Manila City) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ของเรา เนื่องจากเราอยู่ในเมือง Cagayan de oro (เมืองคากายันเดโอโร เขตฮีลากังมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์) ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่มีความพร้อมและแม่นยำกว่าทุกที่ในประเทศของเรา เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงของการตรวจอีกครั้ง ไม่กี่วันต่อมา ผลการทดสอบก็ปรากฏ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยล่าสุดได้มาถึงพวกเรา และทางแล็บยังได้แจ้งในสิ่งที่สามารถรักษาได้อยู่บ้าง คือ ให้การรักษา การบำบัด ด้วยการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด หรือทั้งสองอย่างร่วมกันเพื่อกำจัดเนื้องอกเหล่านั้นอย่างช้าๆ ฉะนั้นน้องชายฉันจึงมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลโดยยังไม่มีกำหนดวันที่จะรักษาเสร็จสิ้น และฉันบอกตามตรงเราไม่รู้เลยว่าจะต้องอยู่ถึงเมื่อไหร่กันแน่ ซึ่งน้องชายของฉันได้ข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านจนถึงปัจจุบัน น้องชายฉัน “นีโน่” ยังเด็กมาก เขาอายุแค่ 26 ปี เขาเป็นน้องชายคนเล็กของพวกเรา ส่วนฉันเป็นพี่ใหญ่ของเขา ฉะนั้นฉันอยู่และอาศัยกับเขาตั้งแต่เป็นมารกจนโต ฉันได้พูดคุย แบ่งปันเรื่องราวในชีวิตของฉันให้กับเขาเสมอ และเขาก็ทำกับฉันแบบนั้นเช่นกัน เพื่อนของฉันก็เป็นเพื่อนของเขา และเพื่อของเขาก็เป็นเพื่อนของฉันด้วย เพราะอายุเราไล่เลี่ยกัน เราจังเข้าใจซึ่งกันและกันเสมอมา เขาไม่ใช่แค่น้องชายของฉัน แต่เขายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันด้วย เขาเป็นเด็กที่สดใส เป็นผู้ฟังที่ดี และเขายังถูกระบุไว้ในรายชื่อคณบดีมหาวิทยาลัยด้วย และผมรู้ว่าเขายังมีหลายสิ่งที่ต้องให้และได้รับอีกมากมายในชีวิตของเขา แต่ตอนนี้มันยีงไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องนั้น เขายังเด็กมาก และไม่มีโอกาสที่จะได้ทำหลายๆสิ่งตามที่เขาต้องการเลย ฉันรู้สึกเศร้าใจที่ผู้ชายที่สดใสอย่างเขาอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาถูกประกาศจากแพทย์ว่าดขาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เขาเป็นโรคภาวะสมองเสื่อม เมื่อคุณถามเขาในบางครั้ง เขาจะลืมและพูดถึงสิ่งที่คุณไม่ได้ถามขึ้น เพราะเขามีอาการประสาทหลอน เมื่อฉันได้ยินเขาแบบนี้ครั้งแรก ฉันก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ว่าน้องชายที่ฉันเคยรู้จัก เป็นคนมีเหตุมีผล มีไหวพริบ และเฉลียวฉลาด จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เราจะยังคงฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำและการตัดสินใจของแพทย์ในขณะที่เรายังติดตามน้องชายอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงพยายามหาทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องชายของฉันที่จ่ายค่ารักษาด้วยค่าฉายรังสี ,เคมีบำบัด ,ค่ารักษาตัวในโรงพยาบาล และอื่นๆอีกมากมายที่จำเป็นต้องใช้ ฉันจึงขอวิงวอนให้ท่านผู้มีอุปการคุณ และมีความเมตตา ช่วยนำน้องชายที่สดใสคนนี้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อให้เขาสามารถดำเนินชีวิตตามความฝันกลับมาหา เพื่อนๆ ของเขา (คนที่เชื่อมั่นในตัวเขา) และครอบครัวที่รัก รวมถึงคนที่คิดถึงเขาอย่างสุดซึ้ง และคนที่เขาสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่คนอื่น หรือสังคมได้ต่อไป ฉันจึงขอความช่วยเหลือจากพวกคุณอย่างจริงใจและมีความหวัง สำหรับการบริจาคในครั้งนี้ ที่พวกคุณสามารถบริจาคได้ไม่ว่าจะมากน้อยเพียงใดก็ตามแต่ เพื่อนำเขา น้องชายสุดที่รักของพวกเรากลับสู่ชีวิตปกติอีกครั้งหนึ่ง โอกาสเหล่านี้อยู่ในมือพวกคุณที่สามารถหยิบยื่นช่วยเหลือน้องชายของฉันได้อีกครั้ง ขอขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ ที่นี้ ด้วยความจริงใจ เลขที่บัญชี ธนาคาร TTB เลขที่บัญชี 281-240447-9 ชื่อเจ้าของบัญชี : Vin Rene Protacio Parcia (พี่ชายของผู้ขอรับบริจาค)En

This is BB yesterday, 15th of Spetmeber  2022, after his 2nd ventriclostomy surgery. As you might have noticed on the photo there is another tube(that's where the area the ventricustomy was performed) and it is linking with the old tube where the fluids get excreted.

And for his red marks, there's nothing to worry about, it is his body's reaction towards steroid. It is slowly fading away now.

It's been 21 days since BB had been admitted to the  hospital and diagnosed with 2 developing tumors. He underwent 2 ventriculostomy surgeries already. Big thanks to those people who extended their support. I can't thank you enough for your generosity. 

The first ventriculostomy surgery wasn't enough to drain all the excess fluids that's been causing intracranial pressure as the tumors were growing it's blocking the passageways of CFS. Due to this, his doctor had to do a quick ventricustomy surgery for the second time to aleviate the excess the fluid and so BB could survive.

As we speak, Nino is recovering from his second surgery and is now preparing for his first dose of  beam radiotheraphy tomorrow.  He is not allowed to ingest any food, he can drink water a little bit of water and that's all.

As of today Nino is in the ICU after Ventriculostomy surgery and he’s recovering well. I will attach some ophotos of him post-op, I’ve seen noticeable improvement on his face, especially his eyes. He looks sharp, he doesn’t look like he’s out of place, he’s sensing the situation. One doctor said, he’s contemplating about the future and that is a really good sign, it means his higher brain frontal cortex function has returned very opposite from what we’ve seen pre op. Right now, he’s still at the Care Unit and will stay for 24-48hrs for monitoring.

For those who do not know, ventriculostomy is a neurological procedure intended for his hydrocephalus, so a hole has been created through his skull within his cerebral ventricle for drainage. The tube then placed through the hole allowing the fluids to flow out.

The fluids that were collected from his brain will be tested for biopsy and this will tell us if cancer cells are present or not or to see the extent of the disease. We’re still waiting for the result of the test.

thank you for everyone who had extended their support. i will continue to update you guys. 

Let's pray harder for BB.